fbpx

HPE SimpliVity

     เมื่อ Hyper-Converged Infrastructure หรือ HCI นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดธุรกิจองค์กร การพัฒนาเทคโนโลยีต่อยอดนั้นก็เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง และเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง HPE ก็ได้ทำการเปิดตัว HPE SimpliVity 4.0 ซึ่งเป็น Major Upgrade ครั้งใหญ่ที่ได้เพิ่มความสามารถที่น่าสนใจเข้ามาหลากหลายประการ ดังนี้

Credit: HPE

1. บริหารจัดการจากศูนย์กลางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

     ใน HPE SimpliVity 4.0 นี้ได้มีการเปิดตัว Management Virtual Appliance (MVA) สำหรับใช้เป็นตัวกลางในการสื่อสารเพื่อบริหารจัดการระบบทั้งหมดจากศูนย์กลาง เพื่อลดความซับซ้อนในการสื่อสารระหว่าง Node และง่ายต่อการเพิ่มขยายระบบ โดย MVA นี้จะถูกติดตั้งมาตั้งแต่ตอนเริ่ม Initial ระบบเป็นครั้งแรกมาให้เลย โดยสำหรับการติดตั้งที่มีจำนวน Node น้อยกว่า 10 Node นั้น MVA จะเป็นเพียงแค่ Optional แต่สำหรับการติดตั้งระบบที่ใหญ่เกินกว่านั้น MVA จะถูกบังคับให้ติดตั้งใช้งาน ซึ่งในธุรกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ที่ต้องการเพิ่ม Resource เพื่อตอบรับในการเติบโตยังก้าวกระโดด การใช้ MVA นี้จะช่วยให้ภาพรวมของ Cluster สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจากระบบสามารถลดปริมาณทราฟฟิกที่ต้องใช้ในการสื่อสารระหว่างกันในการบริหารจัดการลงไปได้นั่นเอง

2. รองรับการทำ Role-Based Access Control แบ่งสิทธิ์การบริหารจัดการได้ดีขึ้น

     จากความสามารถในการทำ All-In-One HCI Appliance นั้นทาง HPE SimpliVity ได้ผนวกความสามารถในเรื่องของการทำ Backup Software ได้ถูกติดตั้งอยู่ในระดับ Kernel ของ HPE SimpliVity ทำให้การ Backup นั้นลดเวลา และลดค่าใช้จ่ายสำหรับ 3rd Party Software และการทำการ Backup นั้นได้มีการแยก Role ในการเข้าถึงเพื่อให้องค์กรสามารถแบ่งสิทธิ์ในการบริหารการจัดการได้เป็นอย่างดี ซึ่ง ใน HPE SimpliVity 4.0 นี้มีการนำเสนอ Role เพิ่มเติมด้วยกัน 2 ส่วน ได้แก่ SimpliVity Administrator โดยผู้ที่มีสิทธิ์เป็น VMware Administrator Role นั้นจะได้รับสิทธิ์ของ SimpliVity Administrator Role ไปด้วยโดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถลดขั้นตอนการกำหนดสิทธิ์ลงไปได้มากทีเดียวสำหรับระบบขนาดใหญ่ SimpliVity Backup User สำหรับจัดการงานที่เกี่ยวกับการสำรองและกู้คืนระบบเป็นหลัก โดยสามารถทำ Backup, Restore และ Backup Search ได้เท่านั้น

3. ติดตั้งใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นยิ่งขึ้น

     เดิมทีนั้นการใช้งาน HPE SimpliVity Federations จะต้องมีการติดตั้ง Arbiter เพื่อให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ แต่สำหรับ HPE SimpliVity 4.0 นี้ การติดตั้ง Arbiter จะจำเป็นก็ต่อเมื่อมีการติดตั้งระบบแบบ 2+0 หรือทำ Stretch Cluster เท่านั้น ทำให้ในภาพรวมแล้วระบบสามารถออกแบบได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น และการติดตั้ง Arbiter ในบางกรณีก็อาจช่วยให้ระบบมีความมั่นคงทนทานสูงขึ้นด้วย ซึ่งทำให้การใช้งานของ HPE SimpliVity นั้นสามารถออกแบบได้อย่างมีความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี

4. รองรับการสำรองข้อมูลร่วมกับ HPE StoreOnce

     HPE SimpliVity 4.0 มีฟีเจอร์สำหรับการทำการสำรองข้อมูล ซึ่งตอบสนองกับตามมาตรฐานของการ Backup ที่ดี ด้วย กฏ 3-2-1 (3 ชุด ข้อมูล , 2 อุปกรณ์ในการจัดเก็บ , 1 Data Offsite) และในอัปเดตนี้ก็ได้เพิ่มความสามารถในการสำรองข้อมูลของ VM ไปยัง HPE StoreOnce เข้ามา ทำให้ธุรกิจองค์กรสามารถใช้พื้นที่บนระบบของ HPE SimpliVity ได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น และรองรับการสำรองข้อมูลได้หลายระดับมากขึ้นด้วย ซึ่งทาง HPE SimpliVity ก็ได้เพิ่มสิ่งนี้เพื่อตอบสนองกับธุรกิจที่ กังวลในปัญหาในเรื่องความเสี่ยงของ Virtus หรือ Ransomeware ได้เป็นอย่างดีด้วยค่าใช้จ่ายที่ประหยัด

ยังมีความสามารถอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

     นอกจากนี้แล้วในความสามารถที่ปรับปรุงเพิ่มเติมขึ้นมานั้นทาง HPE SimpliVity ได้เพิ่มความสามารถเพื่อตอบสนองกับการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมากเช่น

Rancher on HPE SimpliVity : เพื่อการรองรับเทคโนโลยีของ Microservice (Containers) ได้ออกเอกสารการติดตั้งและใช้งานบนเทคโนโลยีของ Rancher ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับองค์กรที่กำลังเริ่มปรับตัวเข้าสู่การพัฒนาของ Container Service ได้เป็นอย่างดี (https://hewlettpackard.github.io/Rancher-on-SimpliVity/MVI1/summary.html)

HPE SimpliVity File (Ctera) : รองรับการทำเรื่องของ NAS และ Collaboration ของข้อมูลเพื่อให้บริษัทสามารถรวมศูนย์กลางของข้อมูลเพื่อรองรับ การ Share Data ภายในองค์กร และ นอกองค์กร ซึ่งรองรับมาตรฐาน DLP or GDPR ที่เหมาะสมในปัจจุบัน

RapidDR 3.1 : ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำ DR Orchestrator ที่ตอบโจทย์เรื่องการรองรับแผน Business Continutity Plan (BCP) ซึ่งซอฟต์แวร์ของทาง HPE SimpliVity นั้นมีค่าใช่จ่ายที่คุ้มค่ากว่าซอฟต์แวร์ชนิดอื่นในตลาดด้วยกัน

     นอกจาก 4 ความสามารถข้างต้น ใน HPE SimpliVity 4.0 เองนี้ก็ยังมีความสามารถใหม่ๆ อีกมากมาย ตั้งแต่การปรับปรุงการอัปเกรดและการติดตั้งให้ดียิ่งขึ้น, การปรับปรุง CLI ให้แสดงผลข้อมูลได้ดีขึ้น, การปรับปรุง UI ให้สามารถตรวจสอบสถานะการสำรองข้อมูลได้ ไปจนถึงการออกหน้า UI ใหม่สำหรับ RapidDR 3.1 โดยเฉพาะ

ข้อมูลทางเทคนิค (Technical Specifications) ของ HPE SimpliVity

1. ความสามารถด้าน Hyper-converged Infrastructure (HCI)

     การรวมศูนย์การทำงาน การจัดการการเก็บข้อมูล เครือข่ายด้วยการบริการทางข้อมูลขั้นสูงสำหรับประสิทธิภาพของข้อมูล การป้องกันข้อมูล และ การจัดการและความคล่องตัวในการใช้งานศูนย์กลางด้วย VM (Virtual Machine).

2. บริการทางข้อมูลขั้นสูง (Advanced data services)

     ระบบ เพิ่มความยืดหยุ่น, การสำรองข้อมูลและการกู้คืนฉุกเฉิน (Disaster Recovery) สำหรับการป้องกันข้อมูล การลดความซ้ำซ้อนและขนาดบีบอัดข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ(deduplication and compression )เพื่อเพิ่มเนื้อที่การใช้งานถึง 10 เท่า

3. รองการจัดการแบบ Multi-hypervisor

     รองรับ VMware vSphere® or Microsoft® Hyper-V Server 2016 private clouds

4. เพิ่มความสามารถขององค์กร

     ปรับแต่งได้ตามความต้องการถึง16 nodes/cluster และ 96 nodes/federation การรวมกันเป็นกลุ่มสำหรับองค์กร เช่น HPE SimpliVity 380 เป็นศูนย์ข้อมูลหลักและ HPE SimpliVity 2600 เป็นหน่วยย่อย 

ความสามารถของ HPE SimpliVity

     Fast ทําให้การบริการจัดการ VM เป็นเรื่่องง่ายและรวดเร็วแบบ VMCentric สามารถ Deploy และขยายระบบได้ง่ายๆ ตามความต้องการธุรกิจ บริหารจัดการระบ VM ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ยุ่งยากบน VMware® vCenter หรือ Microsoft® System Center ที่คุณคุ้นเคย หน้าจอเดียวสามารถดูแลและบริหารจัดการได้ทุกศูนย์ข้อมูล รวม ไปถึงสาขาหรือสํานักงานในที่ต่างๆ บริหารจัดการทรัพยากรแบบกลุ่ม และสามารถย้าย VM ข้ามไปมา ได้อย่างง่ายๆ และรวดเร็ว Application สามารถทํางานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย เทคโนโลยีการจัดการข้อมูลแบบใหม่ใน HPE SimpliVity 380 สามารถเชื่อมต่อกับ HPE OneView Global Dashboard ที่่ช่วย ให้คุณมองเห็นภาพรวม HPE Server ในศูนย์ข้อมูลของคุณ

     Powerful ด้วยความสามารถของ Data Virtualization Platform ใน HPE SimpliVity 380 ช่วยให้คุณปกป้องข้อมูลสําคัญได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ไม่ว่าเรื่อง Data Resiliency, Backup/Restore and Disaster Recovery ปกป้องข้อมูลเสียหายและความเสี่ยงจาก ransomware ด้วย เทคโนโลยี Data Virtualization Platform ใน HPE SimpliVity 380 ช่วยให้การทํา DR เป็นเรื่องง่ายและเร็วช่วยปกป้อง VM ภายใน ศูนย์ข้อมูลหลัก และศูนย์ข้อมูลสํารอง พร้อมทั้งสามารถทําการ Automated Fail-over ด้วย HPE SimpliVity RapidDR กล้ารับประกันคุณสามารถทําการ Backup หรือ Restore VM ขนาด 1TB ได้ภายใน 60 วินาที ปกป้องข้อมูลสําคัญตามมาตราฐาน ข้อกําหนด HIPAA และ Sarbanes-Oxley ด้วย HPE Secure Encryption-a level-1 แบบ data-at-rest

     Efficient มั่นใจกับการให้บริการ และยังปกป้องการลงทุนของท่าน ซึ่ง HPE เท่านั้นที่สามารถให้ได้ ช่วยลดอุปกรณ์ในศูนย์ข้อมูลของคุณได้ถึง 10 เท่าเมื่อคุณใช้งาน HPE SimpliVity 380 ช่วยลด Total Cost of Ownership (TCO) ได้ถึง 2.8 เท่าเมื่อเทียบ กับระบบ Traditional IT และสูงถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับ Cloud ช่วยลดการใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้สูงถึง 10 เท่า ของการใช้ งานพื้นที่จัดเก็บหลักและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสํารอง และยังทํางาน แบบ always-on deduplication and compression รองรับการขยายระบบ สามารถรวม HPE SimpliVity Gen9 และ HPE SimpliVity Gen10 ใน Cluster เดียวกัน ให้คุณสามารถเปิด support case ได้จากที่เดียว โดย HPE Pointnext สามารถครอบคลุมทั้ง hardware, software และระบบ Virtualized ลดความยุ่งยากและเวลา สามารถเปลี่ยนการลงทุนจาก CAPEX เป็น OPEX ด้วย HPE Flexible Capacity pay-per-use ให้สอดคล้องกับนโยบายของ คุณ รองรับการ Graphic Adaptor จาก NVIDIA® GPUs สําหรับงาน High-end Graphics Virtualization

สรุปประโยชน์ของ HPE Simplivity

     เทคโนโลยี HCI ของ HPE Simplivity ช่วยซื้องบประมาณการใช้จ่ายให้คงที่ ด้วย HCI ที่ได้ทำการรวบรวมการแก้ปัญหาทั้งหมด จากส่วนประกอบ IT ที่ปกติต้องทำการซื้อแยก เช่น การประมวลผล(Compute), พื้นที่จัดเก็บข้อมูล(storage), สลับ(switches), สำรองข้อมูล(backup), กู้ข้อมูลฉุกเฉิน(disaster recovery), WAN การปรับแต่ง(optimization), etc.,ได้ถูกนำมารวมในอุปกรณ์เดียว บริษัทที่จะต้องมีแผนที่จะซื้อส่วนประกอบพวกนี้ใหม่ในงบประมาณปีหน้า แต่การลงทุนใน HCI จะช่วยให้ฟรีค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในอนาคต ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม

     HCI ช่วยลดค่าใช้จ่ายทางด้วยการดำเนินงานอย่างมาก เวลาส่วนมากมักจะถูกใช้ไปกับการดำเนินการที่ยุ่งยากในระบบแวดล้อมที่มีอยู่ เช่น การอัพเดทแพทซ์ และ การอัพเกรดอีกหลายๆส่วน การสำรองข้อมูล และ การกู้ข้อมูลฉุกเฉิน การจัดการความสัมพันธ์กับผู้ขาย และการฝึกในหลายๆอุปกรณ์และเทคโนโลยี แต่การใช้ HCI จะอนุญาติให้พวกเขาทำงานหลายๆอย่างเหล่านี้ได้อย่างราบลื่นภายในศุูนย์กลางข้อมูล

     การรองรับ สนับสนุนสำหรับการริเริ่มธุรกิจใหม่ๆ แนวคิดการใช้เทคโนโลยีแบบรวมศูนย์เพื่อลดเวลาไม่จำเป็นของพนักงาน ทำให้ปริมาณงานเพิ่มและเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ในงาน HPE Discover ที่กำลังจัดขึ้นใน Las Vegas นี้ ทาง HPE ได้ออกมาประกาศอัปเดตใหม่ๆ ให้กับ HPE SimpliVity หลายประเด็น ดังนี้

     ในงาน HPE Discover ที่กำลังจัดขึ้นใน Las Vegas นี้ ทาง HPE ได้ออกมาประกาศอัปเดตใหม่ๆ ให้กับ HPE SimpliVity หลายประเด็น ดังนี้ เพื่อใช้ในการจัดเก็บข้อมูลย้อนหลังระยะยาวทั้งสำหรับ VM และ Workload รูปแบบต่างๆ โดยจะสามารถใช้ 4TB HDD ร่วมกับ SSD เพื่อให้มีทั้งความจุและความเร็วพร้อมๆ กันได้ และยังกู้คืน VM ขนาด 1TB ได้ภายในเวลาเพียง 60 วินาทีเท่านั้น

Credit: HPE

     HPE InfoSight สามารถทำงาร่วมกับ HPE SimpliVity ได้แล้ว ทำให้สามารถนำ Artificial Intelligence for Operations (AIOps) มาใช้กับ HPE SimpliVity ทั้งหมด เพื่อวิเคราะห์การทำงาน, ทำนายปัญหา, ประเมินการเติบโต ช่วยให้การดูแลรักษา Data Center เป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

     เปิดตัว HPE SimpliVity 380 Backup and Archive เพื่อใช้ในการจัดเก็บข้อมูลย้อนหลังระยะยาวทั้งสำหรับ VM และ Workload รูปแบบต่างๆ โดยจะสามารถใช้ 4TB HDD ร่วมกับ SSD เพื่อให้มีทั้งความจุและความเร็วพร้อมๆ กันได้ และยังกู้คืน VM ขนาด 1TB ได้ภายในเวลาเพียง 60 วินาทีเท่านั้น

     เปิดตัว HPE SimpliVity 325 ที่ใช้ CPU AMD EPYC ชุดเดียวภายในเครื่อง HPE ProLiant DL325 Gen10 ทำให้มีขนาดเล็กเพียง 1U, ประหยัดค่า License ของ VMware และช่วยให้ TCO โดยรวมลดลงถึง 45% ในส่วนของ Hardware และ 50% ในส่วนของ Software 
>